1408 Views |
เมื่อพูดถึง โรคร้ายแรงใกล้ๆ ตัว แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ “โรคมะเร็ง” ติดอันดับต้นๆ เป็นแน่ หลายๆ ครั้งที่พบว่า คนใกล้ตัวตรวจเจอมะเร็ง จากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือ พบแพทย์เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่าง แต่ไปๆ มาๆ กลับตรวจพบมะเร็ง ซึ่งแน่นอน ต้องมีคำถามกับตัวเองทุกคนว่า เกิดจากอะไร?
ถึงแม้ว่ามะเร็งจะมาทักทายแบบไม่บอกล่วงหน้า ขอให้ตั้งสติเพราะโรคมะเร็งรักษาได้ ยิ่งตรวจพบไวยิ่งมีโอกาสรักษาหายได้มากกว่า แต่เพื่อความชัวร์ควรนัดพบคุณหมอเฉพาะทางท่านอื่นๆ อีก 1-2 ท่าน เพื่อเข้ารับการปรึกษาเพิ่มเติม (Second Opinion) เมื่อรู้ผลการตรวจวินิจฉัยแล้วว่าใช่มะเร็งแน่ๆ ถัดไปคือการเลือกวิธีการรักษา ทบทวนสวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพรวมถึงวงเงินค่ารักษาที่มี และแผนการลางานเพื่อเข้ารับการรักษา
แต่ต้องไม่ลืมว่า ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะค่ารักษาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายของบุคคลที่อยู่ในความดูแลของเราเองด้วย เพื่อลดความเครียดของตัวผู้ป่วยเองและครอบครัวให้คงคุณภาพชีวิตอย่างเดิมให้ได้มากที่สุด ถ้าให้คำนวณแบบคร่าวๆ มีโอกาสถึง 1 ล้านในช่วง 3 เดือนแรกเลยทีเดียวขึ้นอยู่กับ ชนิดและระยะของมะเร็ง วิธีการรักษา รวมถึงโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
สู้มะเร็ง 1 ล้านใน 3 เดือนแรก
1.ค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม (Second Opinion) เริ่มต้น 20,000 บาท*
นัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเป็น Second Opinion หรือบางคนอาจจะหาแพทย์เพื่อความชัวร์ 3 ราย โดยขั้นตอนนี้อาจต้องทำการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องดิจิทัลเพทซีที (Digital PET CT) และค่าตรวจวินิจฉัยมีราคาเริ่มต้น 20,000 บาท*
* ค่าบริการตรวจวินิจฉัยระบบประสาทด้วยเครื่องดิจิทัลเพทซีทีของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างตามแต่ส่วนของร่างกายที่ทำการสแกนรวมไปถึงความละเอียดของอวัยวะที่ทำการสแกนด้วย
2. ค่าผ่าตัดประมาณ 100,000-500,000 บาท
หากแพทย์แนะนำให้ทำการผ่าตัดชิ้นเนื้อมะเร็งออกทั้งก้อนจะมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ค่าห้องโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) ค่าแพทย์ ค่าอาหาร ค่าบริการโรงพยาบาล ราคาจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของโรงพยาบาลนั้น อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000-500,000 บาท
3. ค่าทำคีโม / ค่าฉายแสงสูงสุด 200,000 บาท*
ในผู้ป่วยบางรายแพทย์จะแนะนำให้ทำการรักษามากกว่า 1 วิธีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการรักษาที่มากขึ้น เช่นหลังจากทำการผ่าตัดชิ้นเนื้อร้ายและฉายแสง/รับคีโมต่อเนื่องแบบผู้ป่วยนอก มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท*
*ประมาณการค่าฉายรังสีในเวลาราชการ สำหรับโรคมะเร็ง สาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างตามแต่ส่วนของร่างกายที่ทำการรักษาและจำนวนครั้งที่ทำการรักษา
4. ค่าใช้จ่ายในการดูแลร่างกายให้แข็งแรง
อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ป่วยมีร่างกายที่แข็งแรงพอที่จะรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นว่าต้องเป็นอาหารที่ปรุงสุก สะอาด และมีโปรตีนสูงซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกายที่จะช่วยให้ผู้ป่วยไม่อ่อนเพลีย และไม่ติดเชื้อง่าย หากต้องมีการให้คีโมควรพบทันตแพทย์เพื่อทำฟันให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการรักษาด้วย
5. ค่ารักษาอาการแทรกซ้อน
ระหว่างที่เข้ารับการรักษาผู้ป่วยอาจมีอาการแทรกซ้อนได้หลายกรณี เช่น ผิวลอกแห้ง เป็นแผลง่าย ภาวะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด ภาวะบวมน้ำเหลือง รวมถึงการแพร่กระจายของมะเร็งไปบริเวณอวัยวะอื่นในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีค่าเดินทางจากบ้านไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ตามนัด ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถประมาณการณ์ได้
6. ค่าครองชีพหากไม่สามารถทำงานได้
ผู้ป่วยที่รักษามะเร็งด้วยการผ่าตัดแพทย์มักแนะนำให้หยุดพัก 1-3 เดือนเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการกระทบกระเทือนของแผลผ่าตัดซึ่งในระหว่างนี้อาจจะทำให้ไม่สามารถทำงานได้ แต่ค่าครองชีพประจำวันยังคงอยู่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าดูแลสัตว์เลี้ยง และรวมไปถึงหนี้จากการผ่อนชำระต่างๆ ทำให้ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงบางคนอาจต้องจ้างผู้ดูแลในระหว่างที่ร่างกายยังไม่เต็มร้อย เริ่มต้นที่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นอยู่กับหน้าที่ความรับผิดชอบ
ค่ารักษามะเร็งจนจบคอร์สรวมค่าใช้จ่ายระหว่างรักษาเพื่อคงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวมีโอกาสแตะ 1 ล้านได้ง่ายมากๆ ถึงแม้ว่าการรักษาในโรงพยาบาลรัฐบาลจะมีรักษาที่ย่อมเยาว์ และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็อาจจะต้องรอคิวเพื่อรับการรักษาเนื่องจากมีปริมาณผู้ป่วยรอรับการรักษาค่อนข้างเยอะ ทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวตัดสินใจเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งมีค่ารักษาที่สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐบาล 2.5-7 เท่า และค่ายามีราคาที่สูงกว่า 40-600 เท่าเลยทีเดียว (ผลการศึกษาอัตราค่าบริการของโรงพยาบาลเอกชนในปี 2552 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ))
ทางเลือกที่น่าสนใจคือการทำประกันคุ้มครองโรคมะเร็งแบบมีเงินก้อนให้ทันทีที่ตรวจพบเพื่อที่สามารถนำเงินก้อนนั้นมาวางแผนในการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
เครดิตเนื้อหาดีๆทั้งหมดจาก บริษัทเอฟดับบลิวดี
ประกันมะเร็งออนไลน์ FWD Easy E-CANCER
• คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ
• ตรวจพบมะเร็งรับสูงถึง 2ล้านบาท (มะเร็งผิวหนังรับ 50,000 บาท)
• แผนเดียวเอาอยู่ ทุกมะเร็ง ทุกระยะ
• จ่ายเบี้ยประกันคงที่ 5 ปี คุ้มครอง 5 ปี
• ค่าเบี้ยประกันความคุ้มครองโรคมะเร็งลดหย่อนภาษีได้ ตามที่กฎหมายกำหนด ไม่เกิน 25,000 บาท (เหมือน ประกันสุขภาพ)
ประกันมะเร็ง พ่วงประกันชีวิต
คุ้มครองมะเร็งทุกระยะ
คุ้มครองจัดเต็ม รับ 50% ของทุนประกันภัย เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะเริ่มต้น และรับอีก 50% ของทุนประกันภัย เมื่อมะเร็งนั้นเข้าสู่ระยะลุกลาม
จ่ายเต็ม หากเป็นมะเร็งระยะลุกลามรับ 100% ของทุนประกันภัย เมื่อได้รับการวินิจฉัยครั้งแรกว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
คุ้มครองเคมีบำบัดและรังสีบำบัดพร้อมจ่ายตามจริง สำหรับค่ารักษาเคมีบำบัดและรังสีบำบัด กรณีผู้ป่วยนอก สูงสุด 40% ของทุนประกันภัย ให้คุณสู้กับมะเร็งระยะลุกลามได้เต็มที่
คุ้มครอง 50 โรคร้ายแรง ที่พบได้บ่อยๆ
ความคุ้มครองที่ครอบคลุมรับ 20% ของทุนประกันภัย หากตรวจพบโรคร้ายระยะเริ่มต้น และรับอีก 80% ของทุนประกันภัย เมื่อโรคร้ายเข้าสู่ระยะรุนแรง
รับผลประโยชน์สูงสุด หากพบโรคร้ายระยะรุนแรง รับ 100% ของทุนประกันภัย หากตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายระยะรุนแรง
ดีต่อใจ ทั้งเลือกได้ ทั้งลดหย่อน เลือกชำระเบี้ยรายปี หรือรายเดือน และสามารถนำเบี้ยประกันภัยบางส่วนไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย