1030 Views |
สะสมทรัพย์ เป็นอีกประเภทของประกันชีวิต แผนประกันนี้เหมาะกับ ผู้ที่มีรายได้ประจำ หรือ ฟรีแล็นซ์ ต้องการแบ่งเงินเพื่อออม และ ลดหย่อนภาษี ด้วยความคุ้มครอง ในเงินทุนประกันที่ตนเองเลือกได้ ประกันชีวิต ประเภทนี้ นอกจากจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัยทำงาน ก็ยังเหมาะกับคนเป็นพ่อแม่ ที่ต้องการเก็บออมเงินเป็นทุนการศึกษาให้บุตรในอนาคต โดยสามารถซื้อเดี่ยวๆ หรือ ซื้อความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น ขอซื้อเพิ่ม ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น
หากเน้นเอาไว้ลดหย่อนภาษี เบี้ยประกันสะสมทรัพย์ จะต้องไม่เกิน 100,000บาท เมื่อนำไปรวมกับประกันที่มีอยู่แล้ว หรือ ประกันอื่นๆ ที่จะซื้อเพิ่มในเล่มเดียวกัน เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ทุกบริษัทเป็นหลักเกณฑ์เดียวกัน เช่น
ในกรมธรรม์จ่ายเบี้ยสะสมทรัพย์ 70,000 ต่อปี สัญญาด้านสุขภาพ 35,000 ต่อปี จะลดหย่อนได้ คือ 70,000 + 25,000(ไม่ใช่35,000) = ลดหย่อนได้ 95,000บาท อ่านเกี่ยวกับ ประกันลดเหย่อนภาษี เพิ่มเติมที่นี่
ที่นิยมทำกัน เป็นแบบ สะสมทรัพย์ 25/15 ถือว่าช่วงเวลา และ ผลประโยชน์กำลังเหมาะ ยกเว้นผู้ที่มีรายได้สูงอยากเก็บออมมากกว่าเดิม โดยกำลังมองหาผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินคืนต่อปี ของประกันมากขึ้น รวมไปถึงการลดหย่อนภาษีที่เราได้พูดไว้ด้านบน ก็จะเลือกแผนที่จ่ายสั้นลง ได้เงินคืนไว้ขึ้นเช่น แผน 12/6 เราลองมาดูแบบที่ขายดี และ น่าสนใจกัน
จริงๆแล้วประกันชีวิตแบบนี้ มักจะเปรียบได้กับ เงินฝากธนาคารที่มีดอกเบี้ย ซึ่งหลักการหลายอย่างไม่ได้เหมือนกัน เพราะเงินออมสะสมทรัพย์ จะมีมูลค่าน้อยมาก หากเวนคืนก่อนครบกำหนด ต่างจากเงินฝากที่ฝาก 100,000 ก็ได้กลับมา 100,000บาท แต่ประกันจะได้เงินมากกว่าที่ออมตามสถาบันการเงิน คือ เมื่อครบสัญญา และ การคุ้มครองชีวิตที่สูงกว่า ทุนประกัน 100ขึ้นไป
แล้วข้อดีของแผนนี้ มีอะไรบ้าง
มีเงินคืนทุกปี ขั้นต่ำ 1% ของทุนประกันที่เราซื้อ จนครบสัญญา เช่น เลือกออมทุนประกัน 100,000 ก็จะมีเงินคืนปีละ 1,000บาท จนครบสัญญา
เงินก้อนขั้นต่ำ 150% ของทุนประกันที่เราซื้อ เมื่อครบสัญญา เช่น เลือกออมทุนประกัน 100,000 ก็จะมีเงินคืนครบสัญญา 150,000บาท
ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000บาท
คุ้มครองชีวิตสูงกว่าทุนประกัน เช่น 250% ของทุนประกัน
ทางเลือกในการออมเงิน เก็บเงินไม่อยู่ ที่บังคับตัวเองได้ดี
เห็นเงินก้อน การันตีเงินคืน และ โอกาสรับเงินปันผล(ในบางแผน)
เก็บออมคงที่ ไม่มีปรับเบี้ยขึ้น
เลือกซื้อเดี่ยวได้ โดยไม่ต้องซื้อประกันแบบอื่นเพิ่ม เช่น โรคร้ายแรง
ประกันชีวิตแต่ละแบบ ทำหน้าที่ต่างกัน ผลประโยชน์ก็ต่างกัน เน้นเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทั้งปัจจุบัน และ อนาคต ที่หลากหลาย เวลาที่เราเลือกซื้อประกัน ไม่ว่าจะช่องทางไหน ให้พิจารณาอย่างรอบครอบว่า เราต้องการเพื่อจุดประสงค์อะไร บางคนมีลูกก็อยากทำเป็นมรดกให้
สายโสดก็อาจจะอยากทำประกันชีวิตไว้ เพื่อให้พ่อแม่เผื่อวันนึงตัวเองที่เป็นอะไรไป พ่อแม่ที่แก่ไม่มีรายได้ ก็ยังไปต่อได้จากมรดกที่เราทำไว้ คนโสดบางคนเริ่มต้น ทำประกันสะสมทรัพย์ fwd เพื่อบังคับตัวเอง วางแผนการเงินเพื่อไม่ให้ใช้จ่ายมากไป
สนใจแผนนี้ ต้องทำอย่างไร